เว็บไซต์ NoJitter ได้ออกมาสรุปถึง 6 หลักการในการออกแบบระบบ Network สำหรับ LAN ในปัจจุบันจาก Frost & Sullivan ซึ่งก็ถือเป็นหลักการและมุมมองพื้นฐานที่นำไปปรับใช้กันได้อยู่บ้าง
1. ออกแบบจากการใช้งาน ไม่ใช่ฟีเจอร์ของระบบเครือข่าย
ในสมัยก่อนนั้นเราอาจทำการศึกษาผลิตภัณฑ์แต่ละค่ายและนำฟีเจอร์นั้นๆ มาใช้ออกแบบระบบเครือข่าย แต่ปัจจุบันนี้การมองไปที่อุปกรณ์ที่จะนำมาใช้งานเชื่อมต่อเครือข่ายจริงๆ ว่าจะต้องใช้อะไรบ้างแล้วจึงค่อยออกแบบระบบเครือข่ายนั้นก็ถือเป็นแนวทางที่สมเหตุสมผลกว่า ด้วยการที่ระบบเครือข่ายในปัจจุบันนั้นมีทั้งอุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ PC เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากนั่นเอง
แนวทางเบื้องต้นคือควรจะต้องทำการจำแนกพฤติกรรมและความต้องการของแต่ละอุปกรณ์ออกจากกันให้ชัดเจน แล้วจึงค่อยออกแบบ Topology และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ทั้งในแง่ของ Bandwidth, Application ไปจนถึงการใช้พลังงานที่อาจต้องจ่ายผ่าน PoE ด้วย
2. ออกแบบให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
การออกแบบระบบเครือข่ายให้เข้าใจง่ายและบริหารจัดการง่ายนั้น นอกจากจะทำให้ทำงานได้สะดวกแล้ว ก็ยังจะช่วยลดความเสี่ยงทางด้านความมั่นคงปลอดภัยให้น้อยลงไปด้วย ดังนั้นจึงควรจะออกแบบระบบเครือข่ายให้ง่ายนต่อการตั้งค่า, การติดตั้งใช้งาน, การบริหารจัดการ และการแก้ไขปัญหาเผื่อเอาไว้ตั้งแต่แรก รวมถึงสามารถตรวจสอบและจัดการการเชื่อมต่อไปยังระบบแบบ On-Premises ภายใน Data Center และ Cloud ได้อย่างยืดหยุ่นด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั่นเอง
3. ใช้เทคโนโลยีให้คุ้มค่าสูงสุด และลดความซับซ้อนของระบบลง
นำเทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรมต่างๆ มาใช้งานเพื่อให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนั้นๆ อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง, การลดความซับซ้อนของระบบเครือข่าย, การเพิ่มความยืดหยุ่นให้สามารถติดตั้งใช้งานอุปกรณ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย และทำให้ผู้ใช้งานยังคงเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้อย่างง่ายดายไม่ติดขัด
4. เลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมเองก็ถือว่าสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานทางด้านพลังงานและการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการออกแบบระบบเครือข่ายให้ยังคงใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่แต่ก่อนได้โดยไม่ต้องรื้อทำใหม่ทั้งหมด รวมถึงการนำ Switch PoE คุณภาพสูงที่ใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่ามาใช้ ลดปริมาณพลังงาน, สามารถควบคุมการเปิดปิดอุปกรณ์ได้ และยังลดการเดินสายลงอีกด้วย
5. แบ่ง LAN ออกเป็นสัดส่วนอย่างเหมาะสม
แบ่งสัดส่วนของระบบเครือข่ายในระดับ Logical เพื่อให้สามารถรองรับ Application และการใช้งานได้อย่างหลากหลายโดยเดินสาย LAN ให้น้อยลง ซึ่งแนวทางนี้ก็ยังส่งผลดีต่อการแบ่งสัดส่วนของอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ออกจากกัน และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระบบเครือข่ายในแง่ของความมั่นคงปลอดภัยได้ด้วย
6. จัดสรรการใช้ทรัพยากรใหม่ให้ตอบโจทย์ ROI อย่างคุ้มค่าสูงสุด
เมื่อระบบเครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ในงบประมาณรอบถัดไปก็อาจหันมาเสริมขีดความสามารถในการสื่อสารทางธุรกิจให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและการลงทุนโดยรวมลง และทำให้มีงบประมาณสำหรับลงทุนในระบบ Endpoint หรือ Application ใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น และคุ้มค่ายิ่งขึ้นต่อไปได้อีกทางหนึ่งด้วย
ขอขอบคุณบทความดีๆจากเว็บไซต์ www.techtalkthai.com