การดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟ
วิธีดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟ เบื้องต้น เพื่อให้ไช้ได้นาน และคุ้มค่าที่สุด โดยเครื่องสำรองไฟ เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานเหมือนตัวจ่ายไฟไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีความซับซ้อนมาก หากมีปัญหา จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ยิ่งหากแบตเตอรี่เสื่อม แทบจะซื้อเครื่องใหม่เลยดีกว่า เพราะราคาแบตเตอรี่ก็พอๆ กับการซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้นเราควรดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟให้ใช้ได้นาน และคุ้มค่าที่สุดดีกว่า โดยแยกเป็นข้อ ๆ ตามนี้
- ดูแลเรื่องความสะอาด โดยใช้ผ้าแห้งทำความสะอาดที่ตัวเครื่อง
- ดูแลเรื่องการระบายอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม และปราศจากฝุ่นละออง
- อย่านำ UPS ไปใช้งานผิดประเภท ไม่ควรนำอุปกรณ์ทำความร้อน หรือที่กินไฟมากๆ มาใช้งานกับ UPS
- ใช้งาน UPS และปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งาน
- ในกรณีที่ UPS มีปัญหาขัดข้อง ให้แจ้งฝ่ายบริการ อย่าเปิดฝาเครื่อง เพื่อทำการซ่อมเอง ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายกับตัวเองและอาจเกิดความเสียหายกับ UPS ได้
- ควรทำกรทดสอบสภาพแบตตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจในสภาพของแบตเตอรี่ (ทดสอบ 1 เดือน ต่อ 1 กรั้ง)หลังเลิกใช้งาน ควรปิดเครื่องสำรองไฟทุกครั้ง เพราะหากเกิดไฟฟ้าดับ ในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น กลางคืน หรือ เสาร์ -อาทิตย์ จะทำให้ใช้งานแบตตอรี่ เครื่องสำรองไฟ และหากใช้ไฟจนหมด จะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสำรองไฟสั้นลงได้
- ก่อนทดสอบควรปิดโปรแกรม และ Save งานต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการเสียหายหากเครื่องสำรองไฟมีปัญหา
- ปิดสวิสซ์ไฟ INPUT ของเครื่องสำรองไฟ
- ดูว่าเครื่องคอมยังปิดปกติอยู่หรือไม่ ถ้าหากครื่องคอมดับตามไปด้วย แสดงว่าเครื่องสำรองไฟมีปัญหา
- รอสักพัก 3-4 นาทีแล้วก็เปิดสวิสซ์ปลั๊กพ่วงใหม่ แล้วใช้งานตามปกติ
- หลังเลิกใช้งาน ควรปิดเครื่องสำรองไฟทุกครั้ง เพราะหากเกิดไฟฟ้าดับ ในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น กลางคืน หรือ เสาร์ -อาทิตย์ จะทำให้ใช้งานแบตตอรี่ เครื่องสำรองไฟ และหากใช้ไฟจนหมด จะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสำรองไฟสั้นลงได้
คำแนะนำสำหรับการทดสอบสภาพของแบตเตอรี่
- ทำการทดสอบอย่างง่ายๆ ด้วยวิธีการทดสอบแบตเตอรี่ของ UPS นั้นๆ ซึ่งจะระบุไว้ในคู่มือการใช้งาน เช่น สั่งทดสอบจาก Software อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (สำหรับรุ่น
L Series, ML Series, D Series, MD Series และ S Series) - ทำการทดสอบการสำรองไฟด้วยการถอดปลั๊ก Input ของ UPS ออกจากจุดจ่ายไฟขณะที่เปิดอุปกรณ์ใช้งานตามปกติ เป็นเวลา 3-5 นาที แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ เพื่อเป็นการคายประจุ และประจุแบตเตอรี่ใหม่ ควรทำเดือนละ 1-2 ครั้ง (สำหรับรุ่น L Series, ML Series, D Series และ MD Series)
- บริการตรวจเช็คสภาพเครื่อง ฟรี! ทุกๆ 4 เดือน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (รหัสโทรศัพท์ 02) และทุกๆ 6 เดือน ในเขตต่างจังหวัด (สำหรับรุ่น T&TR Series ขนาด6kVA ขึ้นไป และรุ่น TS Series ขนาด 15kVA ขึ้นไป)
ด้านการประหยัดพลังงาน
- ปิดจอภาพคอมพิวเตอร์เมื่อไม่มีการใช้งานนานเกินกว่า15 นาที หรือตั้งโปรแกรมพักหน้าจอ
- ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์เมื่อไม่มีการใช้งาน ติดต่อกันนานกว่า 1 ชั่วโมง และปิดเครื่องทุกครั้งหลัง เลิกการใช้งานพร้อมทั้งถอดปลั๊กออก
- เลือกใช้คอมพิวเตอร์ที่มีระบบประหยัดพลังงาน เพราะใช้กำลังไฟฟ้าลดลงร้อยละ 55 ในขณะที่รอทำงานและควรใช้จอภาพขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป เช่น จอภาพ ขนาด 14 นิ้ว จะใช้พลังงานน้อยกว่าจอภาพขนาด 17 นิ้ว ถึงร้อยละ 25
- ตรวจแก้ไขเอกสารบนจอภาพแทนการตรวจแก้ไขบนเอกสารที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ จะช่วยลดการสิ้นเปลือง พลังงาน กระดาษ หมึกพิมพ์ และการสึกหรอของเครื่องพิมพ์ได้มาก
- ติดตั้งเครือข่ายเชื่อมโยงการทำงานของเครื่องพิมพ์เพื่อใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน จะช่วยลดความสิ้นเปลืองทั้งด้านพลังงานและการซ่อมบำรุง
- ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในสำนักงานเมื่อเลิกใช้งาน หรือเมื่อไม่มีความต้องการใช้งานนานกว่า 1 ชั่วโมง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้อย่างเคร่งครัดเพื่อประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ
- มีแผนการตรวจเช็คและทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ทุกชนิดเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รณรงค์การประหยัดพลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์สำนักงาน อย่างจริงจังและต่อเนื่องด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ติดสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์ จัดบอร์ดนิทรรศการ เสียงตามสาย หรือให้ความรู้โดยการจัดอบรม เป็นต้น