ค้นหา
ภาษาไทย
สินค้าตามประเภท
    เมนู ปิด
    กลับไปทั้งหมด

    NAS Storage คืออะไร

    NAS Storage คืออะไร

    NAS Storage คืออะไร
    NAS (Network Attached Storage) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่บ้านหรือสำนักงานของคุณ คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ของครอบครัวและเพื่อนร่วมงานทั้งหมดของคุณบนเครื่อง NAS ตั้งแต่เอกสารสำคัญไปจนถึงคอลเลกชันภาพถ่าย เพลง และวิดีโอที่ล้ำค่า คุณสามารถเข้าถึงไฟล์และใช้บริการต่างๆ ที่เครื่อง NAS มีให้ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยการใช้เว็บเบราว์เซอร์หรือแอปมือถือ โดยปกติเวลาเราใช้งาน Hard Drive ในเครื่องเรามักจะส่งไฟล์แชร์ต่อให้ใครไม่ได้ ทำให้เราต้องเสียเวลาไปส่งอีเมลล์ หรืออัพโหลดขึ้น Dropbox หรือใช้ USB Thumb Drive ส่งไฟล์กัน ซึ่งบางทีขนาดก็อาจจะเล็กไป หรือติดไวรัสกันเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โต NAS Storage ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยแก้ปัญหา โดยเป็นอุปกรณ์ที่มี Hard Drive ในตัวสำหรับให้คนในบ้าน หรือในออฟฟิศเดียวกันสามารถส่งไฟล์ แชร์ไฟล์ หรือสำรองไฟล์กันได้

    ลักษณะหน้าตาของ NAS Storage

    • มีรูปร่างที่หลากหลาย ตั้งแต่ลักษณะเหมือนเป็นกล่องเล็กๆ สำหรับใช้งาน 1-5 คน หรือกล่องใหญ่ขึ้นสำหรับใช้งานกันระดับออฟฟิศ 10 – 30 คน หรือแม้แต่กล่องที่ใหญ่ขึ้นสำหรับงานตัดต่อวิดีโอ, งานประมวลผลระดับองค์กร หรือแม้แต่งานประมวลผลทางด้านวิทยาศาสตร์, การแพทย์ และฟิสิกส์งานใหญ่ๆ ระดับโลกที่เราได้ยินข่าวกันบ่อยๆ ก็ใช้ NAS Storage เช่นกัน

    การติดตั้ง NAS Storage

    • การติดตั้ง NAS Storage นั้นสามารถทำได้โดยง่าย แม้แต่ผู้ใช้งานตามบ้านก็สามารถทำเองได้ ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
      • ติดตั้ง NAS Storage พร้อมกำหนด IP Address
      • เสียบสาย LAN เข้าไปยัง Router
      • สร้าง Folder ใน NAS พร้อมกำหนด User/Password
      • เชื่อม Folder ใน PC ด้วย User/Password ที่ตั้งไว้
        เพียง 4 ขั้นตอนเท่านี้ เราก็สามารถใช้งาน NAS Storage ภายในบ้านได้ เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ สามารถทำการเชื่อมต่อเพื่อรับและส่งข้อมูลกับ NAS Storage ได้ทันทีผ่านทางระบบเครือข่าย

    จำนวน Hard Drive ใน NAS Storage

    • อาจจะมีหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 1-2 ลูกสำหรับการใช้งานระดับเล็ก 4-8 ลูกสำหรับการใช้งานระดับกลาง หรือ 12 – 100 ลูกสำหรับการใช้งานระดับใหญ่ และเกินกว่า 100 ลูกสำหรับการใช้งานระดับใหญ่มาก โดยสำหรับระบบ NAS Storage นี้ การมีจำนวน Hard Drive เพิ่มจะยิ่งเพิ่มความเร็วของการใช้งานระบบ NAS Storage และเพิ่มความทนทานของข้อมูลไปพร้อมๆ กัน โดยมีการสำรองข้อมูลระหว่าง Hard Drive แต่ละลูกตามแนวคิดของ RAID

     

    ความสามารถของ NAS Storage โดยทั่วไปจะมีความสามารถดังต่อไปนี้

    • สามารถสร้าง Folder ส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งานแต่ละคน ให้แต่ละคนสามารถใช้งานร่วมกันระหว่างหลายๆ อุปกรณ์ โดยกำหนดพื้นที่สูงสุดสำหรับแต่ละคนได้
    • สามารถสร้าง Folder แชร์สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานแต่ละคน ให้แต่ละคนที่มีสิทธิ์สามารถเขียนและอ่านไฟล์
    • สามารถกำหนดสิทธิ์ให้ผู้ใช้งานแต่ละคนมองเห็น Folder ที่แตกต่างกันตามฟังก์ชันการทำงานได้
    • สามารถสร้างเป็น Shared Folder หรือ Drive ทิ้งไว้ในเครื่องของผู้ใช้งานได้ทันที ทำให้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน

    ในขณะที่ NAS Storage ระดับองค์กร หรือระดับสูง อาจจะมีความสามารถอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น

    • สามารถทำ Deduplication ช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ซ้ำซ้อนได้
    • สามารถทำการ Scan Virus ในไฟล์ที่อยู่บน NAS Storage ได้
    • สามารถทำการสำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูลสำหรับไฟล์ที่สำคัญๆ ได้
    • สามารถทำการสำรองข้อมูลข้ามสาขา เพื่อรองรับเหตุภัยพิบัติต่างๆ ได้
    • สามารถเรียกใช้ไฟล์ผ่านหน้าเว็บไซต์ได้
    • สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับ Server เป็นหมื่นๆ ถึงล้านๆ เครื่องได้

    ทั้งนี้การเลือกใช้ NAS Storage ควรจะเลือกให้เหมาะสมต่องานที่ใช้ ทั้งในแง่ของความสามารถ, ประสิทธิภาพ และราคาที่ต้องการ


    ประเภทงานที่เหมาะสมกับ NAS Storage ตัวอย่างงานที่เหมาะสมกับการใช้ NAS Storage มีดังต่อไปนี้

    • งานแชร์เอกสารภายในบ้านและภายในองค์กร
      • NAS Storage ขนาดเล็กที่ใส่ Hard Drive ตั้งแต่ 2-8 ลูก สำหรับใช้งานตั้งแต่ 2 – 30 คน ให้แต่ละคนมี Folder ส่วนตัว และ Folder แชร์ร่วมกันภายในแผนก
      • NAS Storage ประสิทธิภาพสูงที่มี Hard Drive ตั้งแต่ 2 – 16 ลูก หรือบางทีอาจจะใช้เกินกว่า 100 ลูก สำหรับใช้จัดเก็บ Raw File และให้แต่ละแผนกสามารถทำการตัดต่อไฟล์ต่างๆ กันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วแยกตามแผนก เช่น ตัดต่อภาพ, ตัดต่อเสียง, ใส่ Subtitle และอื่นๆ
      • NAS Storage ขนาดตั้งแต่ 2 – 16 ลูก สำหรับจัดเก็บ Code แต่ละ Release ย้อนหลังให้แตกต่างกันไป รวมถึงใช้แบ่งปันข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงาน เช่น ไฟล์ภาพ, ไฟล์เสียง, ไฟล์วิดีโอ และเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้ข้อมูลอยู่อย่างคงทนถาวร
    • งานจัดเก็บข้อมูลและสำรองภาพถ่าย
      • NAS Storage ขนาดตั้งแต่ 2-6 ลูกสำหรับการใช้งานเบื้องต้น หรือขนาดตั้งแต่ 8-12 ลูก สำหรับจัดเก็บไฟล์จำนวนมากและประมวลผลไปพร้อมๆ กัน
    • งานสำรองข้อมูลระดับองค์กร
      • NAS Storage สำหรับการสำรองข้อมูลนี้จะมีหลากหลาย ขึ้นกับปริมาณของข้อมูลที่ต้องการทำการสำรอง
      • NAS Storage ประสิทธิภาพสูงสำหรับการจัดเก็บข้อมูลจาก CCTV โดยจำนวนของ Hard Drive จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูล และความเร็วในการจัดเก็บข้อมูลที่ต้องคำนวณจากจำนวนกล้อง CCTV
    • งานประมวลผลประสิทธิภาพสูงทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
      • NAS Storage ประสิทธิภาพสูงมาก ตั้งแต่ 12 – 100 ลูก หรือเกินกว่า 1,000 ลูกสำหรับงานประมวลผล โดยจำนวนของ Hard Drive จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการประมวลผลที่ต้องการ


    ข้อดีของ Nas

    • เป็นจุดศูนย์รวมข้อมูลที่เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึง เมื่อข้อมูลมีปริมาณมากขึ้นทุกวัน จากทั้งเราและสมาชิกคนอื่น ๆ แทนที่จะต้องไปอัปเกรดคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องหรือทำการย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง เราใช้การเก็บข้อมูลบนเครื่อง nas ไปเลยทีเดียวจะสะดวกกว่ามาก ประหยัดพื้นที่ในคอมและยังช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกด้วย เพราะ nas สามารถสั่งการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้ด้วย
    • เก็บข้อมูลได้มิดชิดและปลอดภัยกว่า Cloud หลายคนอาจจะรู้สึกว่า สิ่งที่ nas ทำได้ ระบบ Cloud ก็ทำได้เหมือนกัน แต่การเก็บข้อมูลต่าง ๆบน Cloud นั้นถ้าต้องการพื้นที่เก็บมาก ๆ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็ถือว่าค่อนข้างสูงและที่สำคัญระบบ Cloud เป็นการเก็บไฟล์ไว้ให้คนอื่นดูแล ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลจะน้อยกว่าการเก็บบน nas แน่นอน


    ขอขอบคุณบทความจาก http://www.storagewhale.com



    ความคิดเห็น
    แสดงความคิดเห็น ปิด
    *